สรุปบทเรียนที่ 5
Software
Requirement
Requirement
Engineering วิศวกรรมความต้องการ
หมายถึง
กระบวนการที่ทำให้วิศวกรรมซอฟต์แวร์เขข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้อย่างแท้จริง
ซึ่งมี 4
วิธี
<!--[if !supportLists]-->1. <!--[endif]-->จะต้องไปค้นหาความต้องการของผู้ใช้
<!--[if !supportLists]-->2. นำความต้องการที่ได้ไปทำการวิเคราะห์
<!--[if !supportLists]-->3. กำหนดความต้องการ
<!--[if !supportLists]-->4. ตรวจสอบความต้องการ
ตัวอย่าง Functional
Requirements
(มักจะขึ้นต้นด้วย “จะ”) เช่น
<!--[if !supportLists]-->1. ผู้ใช้จะสามารถค้นหาบทความทั้งหมดหรือสามารถเลือกค้นหาได้
<!--[if !supportLists]-->2. ระบบจะให้ผู้อ่านสามารถอ่านบทความที่เก็บเอาไว้ในฐานข้อมูลได้
Non-functional
requirement
แบ่งออกได้เป็น 3
ด้าน
<!--[if !supportLists]-->1. Product
requirement ความต้องการทางด้านผลิตภัณฑ์ เช่น
ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ความน่าเชื่อถือ
<!--[if !supportLists]-->2. Organizational
requirement ความต้องการทางด้านองค์กร เช่น นโยบายขององค์กร
ข้อกำหนดขององค์กร ระเบียบปฏิบัติของลูกค้า
<!--[if !supportLists]-->3. <!--[endif]-->External
requirement ความต้องการภายนอก เช่น กฎหมาย นโยบายขององค์กร ของสังคม
เกี่ยวกับสินค้า หลักทางด้านจริยธรรม
Sequence
Diagram
เป็นแผนภาพแสดงปฏิสัมพันธ์ระหว่าง Object
และ Class โดยการส่งข้อความ (Message)
ระหว่างกัน
ตัวอย่าง Sequence
Diagram ของระบบห้องสมุด
สามารถอธิบายได้ดังภาพตัวอย่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น